พระเจ้าฮั่นอู่ตี้หลิวเช่อ(汉武帝刘彻)
พระเจ้าฮั่นอู่ตี้หลิวเช่อ(汉武帝刘彻) ได้ครองบัลลังก์จาก 156 ปีก่อนคริสต์ศักราชถึง 87 ปี ก่อนคริสต์ศักราช หลิวเช่อ(刘彻) เป็นพระนามเดิมของพระเจ้าฮั่นอู่ตี้ ทรงขึ้นครองราชย์เมื่ออายุ 16 พรรษา ปกครองราชวงศ์ฮั่น นานถึง 54 ปี คุณงามความดีของพระองค์ในด้านปกครองบ้านเมืองและด้านการทหารทำให้ราชวงศ์ฮั่น(汉朝)กลายเป็นจักรวรรดิที่เข้มแข็ง เกรียงไกรที่สุดจักรวรรดิหนึ่งของโลกในสมัยนั้น
พระเจ้าหลิวปัง(刘邦) ต่งจ้งซู(董仲舒)
ในต้นสมัยราชวงศ์ฮั่น พระเจ้าหลิวปัง(刘邦)ได้ทรงแต่งตั้งให้พี่น้องนามสกุลเดียวกันไปเป็นเจ้าผู้ครองแคว้นต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อรักษาอำนาจของเชื้อสายตนเอง อำนาจของผู้ครองแคว้นต่าง ๆ มีมากพอสมควร ซึ่งสามารถมีสิทธิ์ในการจัดตั้งทหารส่วนตัว การเก็บภาษีอากร(征收租税) การหล่อเหรียญกษาปณ์(铸造钱币) การแต่งตั้งและยกเลิกตำแหน่งขุนนางภายในเขตใต้สังกัดได้ ต่อมาอำนาจของเจ้าแคว้นต่าง ๆ มีมากเกินความสมควร จนกลายเป็นการคุกคามต่ออำนาจศูนย์กลาง ฉะนั้น ครั้นพระเจ้าฮั่นอู่ตี้ขึ้นครองราชย์ พระองค์ได้บัญญัติราชโองการให้เจ้าผู้ครองแคว้นมีสิทธิ์ที่จะมอบที่ดินให้กับลูกหลานและสถาปนาแคว้นของตนเองขึ้น ซึ่งเรียกว่า ทุยเอินลิ่ง(推恩令) ด้วยพระราชโองการฉบับนี้ แต่ละแคว้นได้แบ่งออกเป็นแคว้นขนาดเล็กต่าง ๆ จึงได้ลดอำนาจเดิมลง ต่อมาพระเจ้าฮั่นอู่ตี้ยังได้ทรงยกเลิกบรรดาศักดิ์ของเจ้าผู้ครองแคว้นขนาดใหญ่เล็กต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ ในที่สุดจึงได้ลดการคุกคามจากท้องถิ่นลงและส่งเสริมให้ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์(中央集权制度)มั่นคงยิ่งขึ้น
หลี่กว่าง(李广) เว่ยชิง(卫青)
หั้วชี่ปิ้ง(霍去病)
ในยุคสมัยพระเจ้าฮั่นอู่ตี้ ต่งจ้งซู(董仲舒) บัณฑิตจากสำนักปรัชญาขงจื้อ(儒家) ได้ปรับปรุงและพัฒนาแนวความคิดของลัทธิขงจื๊อเพื่อตอบสนองความต้องการของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ดังนี้ประการแรก ยกย่องให้สวรรค์มีอำนาจเหนือสรรพสิ่งในโลก พระมหากษัตริย์เป็นโอรสแห่งสวรรค์ ทรงปกครองราษฎรในนามของสวรรค์ ฉะนั้น ราษฎร์ทั้งหลายจำเป็นต้องเชื่อฟังต่อการปกครองของพระมหากษัตริย์ เจ้าขุนมูลนายจำเป็นต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพระมหากษัตริย์ด้วย ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการรวมอำนาจแบบใหญ่หลวง ประการที่สอง ยกย่องคำสอนของลัทธิขงจื๊อให้เป็นแนวคิดหลักของประเทศจีน เปิดสอนและเผยแพร่ลัทธิขงจื๊อเพียงวิชาเดียว ห้ามมิให้วิชาและความคิดอื่น ๆ เผยแพร่ในประเทศ เพื่อเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั้งด้านความคิดและด้านการปกครองด้วย
พระเจ้าฮั่นอู่ตี้ได้ทรงรับข้อเสนอแนะของต้งจ้งซู บัณฑิตที่เลื่อมใสต่อปรัชญาของขงจื๊อจำนวนมากมายได้รับตำแหน่งเป็นขุนนางชั้นสูงในราชสำนักฮั่น(汉朝政府) ตั้งแต่นั้นมา ลัทธิขงจื๊อได้กลายเป็นแนวความคิดหลักเรื่อยมาในสมัยสังคมศักดินาของจีนเป็นเวลา 2000 ปี
พระเจ้าฮั่นอู่ตี้ ได้ทรงพัฒนาอำนาจด้านการทหารส่วนกลางให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น โดยจัดตั้งกองทหารประจำส่วนกลางขึ้น พระองค์ได้ทรงให้ราษฎรจำนวนมหาศาลอพยพและไปตั้งถิ่นฐานเขตชายแดนภาคเหนือ(北方边塞地区) เพื่อพัฒนากำลังทหารในการป้องกันชายแดน ตั้งแต่ 133 ปีก่อนคริสต์ศักราช แม่ทัพชื่อดังสามคนคือ หลี่กว่าง(李广) เว่ยชิง(卫青) และหั้วชี่ปิ้ง(霍去病)ได้นำกองทัพออกไปโจมตีชนเผ่าซงหนู(匈奴) ซึ่งมักจะมารุกรานประเทศจีนอยู่เสมอ ด้วยสงครามขนาดใหญ่สามครั้ง ราชวงศ์ฮั่นถึงได้ชัยชนะโดยสิ้นเชิง พระองค์ยังทรงส่งกองทัพไปไกลถึงเขตชายแดนและเอเชียกลาง(亚洲腹地)หลายครั้ง ได้ขยายอาณาเขตของราชวงศ์ฮั่นออกไปอย่างรวดเร็ว
พระเจ้าฮั่นอู่ตี้ได้ทรงส่งคณะราชทูตนำโดยจางเชียน(张骞)ไปยังดินแดนตะวันตก 2 ครั้ง ได้สร้างความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ฮั่นและประเทศต่าง ๆ ในดินแดนตะวันตก ในบันทึกเกี่ยวกับดินแดนตะวันตกที่จางเชียนยื่นต่อพระเจ้าฮั่นอู่ตี้นั้น ได้กล่าวถึงจักรวรรดิโรมัน(罗马帝国) ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเส้นทางสายไหมจีน(中国丝绸出口)
ความยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ฮั่นทำให้ชาวจีนถูกเรียกกันว่า ชาวฮั่นหรือชนชาติฮั่นอย่างแพร่หลายแทนที่ถูกเรียกว่า ชาวจิ๋น พระเจ้าฮั่นอู่ตี้ได้รับการยกย่องเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่อีกพระองค์หนึ่งหลังจากจิ๋นซีฮ่องเต้(秦始皇)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น