หวังจาวจวิน(王昭君)
หวังจาวจวินได้รับฉายานามว่า "ปักษีตกนภา" (落燕) ซึ่งหมายถึง "ความงามที่ทำให้แม้แต่ฝูงนกยังต้องร่วงหล่นจากท้องฟ้า"
ในระหว่างสมัยราชวงศ์จิ๋น(秦朝)และราชวงศ์ฮั่น(汉朝) ชนเผ่าซงหนู(匈奴)ซึ่งเป็นชนเผ่าเลี้ยงสัตว์เร่ร่อนตามแหล่งอาหารเลี้ยงสัตว์ทางทิศเหนือของจีนได้มีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อย ๆ และได้รุกรานลงมาทางภาคใต้อยู่หลายครั้ง ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของจีน ในต้นสมัยราชวงศ์ฮั่น ประเทศยังไม่ค่อยเข้มแข็ง ไม่สามารถต่อสู้กับชาวซงหนูได้ จึงได้ดำเนินนโยบายการอภิเษกสมรส(和亲政策)เพื่อแสดงไมตรีจิตต่อกัน โดยมีจุดมุ่งหมายพักรบชั่วคราว ต่อมาด้วยการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและการทหารของราชวงศ์ฮั่น เงื่อนไขที่ต่อสู้กับชาวซงหนูจึงได้ครบถ้วน ถึงสมัยพระเจ้าฮั่นอู่ตี้(汉武帝) พระองค์ได้ยกเลิกใช้นโยบายการอภิเษกสมรสและเริ่มโจมตีชนเผ่าซงหนูแทน จากนั้นมา 80 ปี ราชวงศ์ฮั่นตะวันตก(西汉)ไม่เคยสมรสกับชาวซงหนูอีกเลย
พระเจ้าฮั่นอู่ตี้(汉武帝) พระเจ้าฮั่นเซวียนตี้(汉宣帝)
ครั้นพระเจ้าฮั่นเซวียนตี้(汉宣帝)ขึ้นครองราชย์ อำนาจของซงหนู(匈奴)เสื่อมโทรมลง ขณะนั้นภายในชนเผ่าซงหนูได้เกิดปัญหาฉานหยู(单于)สองพระองค์แย่งชิงพระราชอำนาจกัน (ฉานหยูคือชื่อตำแหน่งประมุขของซงหนู) ฉานหยูองค์หนึ่งนามว่า “ฮูหันเสีย(呼韩邪)” ปรารถนาที่จะขอความสนับสนุนจากราชวงศ์ฮั่น และรวมชนเผ่าซงหนูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จึงตัดสินพระทัยสวามิภักดิ์ต่อราชวงศ์ฮั่น ฮูหันเสีย เคยไปเข้าเฝ้าพระมหากษัตริย์ของราชวงศ์ฮั่นที่เมืองฉางอานถึงสองครั้ง ได้รับการต้อนรับอย่างใหญ่โตมโหฬาร และได้แสดงความยินยอมที่จะช่วยกันรักษาความมั่นคงตามชายแดนของจีนเมื่อ 36 ปีก่อนคริสต์ศักราช ราชสำนักฮั่นได้ยกพลไปบุกโจมตีฉานหยูอีกองค์หนึ่ง ฮูหันเสีย จึงสามารถรวมซงหนูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้
ฮั่นหยวนตี้(汉元帝) รูปปั้นแกะสลักของฮูหันเสียและหวังเจาจวินที่มองโกลใน
เมื่อ 33 ปี ก่อนคริสต์ศักราช ฮูหันเสีย ได้มาเยือนเมืองฉางอันเป็นครั้งที่ 3 และมีพระประสงค์ที่จะเป็นราชบุตรเขยของราชวงศ์ฮั่นและฟื้นฟูการอภิเษกสมรสกับราชวงศ์ฮั่นอีกครั้งหนึ่ง พระเจ้าฮั่นหยวนตี้(汉元帝) ได้ทรงยอมรับคำขอร้องของฮูหันเสีย ฮูหันเสียหวังว่าพระเจ้าฮั่นหยวนตี้จะประทานพระธิดาองค์หนึ่งแก่เขา พระเจ้าฮั่นหยวนตี้เห็นด้วยกับคำกราบทูลของฮูหันเสีย เเต่ไม่ยอมยกพระธิดาของตนไปอภิเษกกับชนชาติซงหนู จึงตรัสบอกพวกสนมว่า “ไม่ว่าใครอยากเเต่งงานกับหัวหน้าของซงหนูก็จะให้ผู้นั้นเป็นองค์หญิง พอหวังจาวจวิน(王昭君)ได้ยินข่าวนี้เเล้ว เธอก็ยินยอม เเต่งงานกับหัวหน้าของชนเผ่าซงหนู พระเจ้าฮั่นหยวนตี้ทรงดีพระทัยมาก เเละตกลงจัดงานอภิเษกสมรสระหว่างฮูหันเสียกับหวังจาวจวินที่เมืองฉางอานอย่างมโหฬาร
หวังจาวจวิน(王昭君)
อย่างไรก็ตาม พระเจ้าฮั่นหยวนตี้ไม่ทรงได้เคยพบเห็นหวังจาวจวินเลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้ในยามที่ทรงเลือกนางสนมใหม่จากภาพนางกำนัลที่ทรงมี และมีศักดิ์สูงพอที่จะเป็นพระสนม ภาพวาดของหวังจาวจวินก็ไม่ใช่ภาพที่นำเสนอความงามที่แท้จริงของนาง ดังนั้นจึงทรงมองข้ามนางไป เมื่อนางได้ไปปรากฏตัวในท้องพระโรง ความงามของนางถึงกับสะกดขุนนางทั่วทั้งท้องพระโรง รวมทั้งพระเจ้าฮั่นหยวนตี้ด้วย จนพระองค์ถึงกับทบทวนแนวพระราชดำริที่จะส่งนางไปยังซงหนู
แต่กระนั้น พระเจ้าฮั่นหยวนตี้ได้ทรงตกปากรับคำไปแล้วจึงไม่อาจที่จะคืนคำได้ ฮูหันเสีย ยินดีมากที่ได้ภรรยาสวยเหมือนนางฟ้า นางหวังจาวจวินทั้งสวยงามและฉลาด ได้รับความชื่นชอบจากฮูหันเสียเป็นอันมาก และได้รับพระราชทานนามว่า “นิ่งหูยานจือ(宁胡阏氏)” ซึ่งมีความหมายว่าจะผูกมิตรสัมพันธ์กับราชวงศ์ฮั่น
หวังจาวจวินเดินทางไปยังซงหนู
หวังจาวจวินใส่ชุดสีเเดงขี่ม้าสีขาว เดินทางจากกรุงฉางอันภายใต้ การส่งของราชวงศ์ฮั่นกับซงหนู ในระยะแรกเริ่มหวังจาวจวินไม่เคยชิน เเต่อีกไม่นานก็ได้อยู่ร่วมกับชาวซงหนูเป็นอย่างดี
หวังจาวจวินได้ใช้ชีวิตของตนที่เขตของชนเผ่าซงหนู เธอได้เผยเเพร่วัฒนธรรมชาวฮั่นให้เเก่ชนชาติชนเผ่าซงหนู ลูกหลาน ของเธอก็สืบทอดเจตนาของเธอ สร้างมิตรสัมพันธ์ระหว่างชาวฮั่นกับ ชาวซงหนู ในเมืองฮูฮอทที่มองโกเลียในของจีน เรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องเล่าที่สืบ ทอดกันมาหลายชั่วคนรุ่นเเล้วรุ่นเล่า เเละกลายเป็นเนื้อหาสืบทอดกันมา ในกลอน เรื่องละครเเละนวนิยาย
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
ตอบลบ